ละเลงครีมบนหน้า

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นหวัดครับ แล้วก็สั่งน้ำมูกมากเสียจนผิวข้าง ๆ จมูกลอกเป็นขุย โชคดีที่ได้โลชั่นมาช่วยชีวิตไว้

ปกติแล้วผมไม่ใช้เครื่องสำอางเลยครับ ที่ใช้ทาตัวก็มีอยู่อย่างเดียวก็คือทาแป้งหลังอาบน้ำ อย่างที่เคยในเอนทรีเก่า ๆ กว่า น้ำหงน้ำหอม โคลงโคโลญจ์ ก็ไม่เคยใส่ เรียกได้ว่า ค่อนข้างห่างไกลจากเครื่องประทินผิวต่าง ๆ นานาก็ว่าได้

ทีนี้พอมีแฟน แฟนก็น่ารักมากครับ พอรู้ว่าผมไม่เคยทาโลชั่นอะไรเลย ก็เลยตกอกตกใจ เอาโลชั่นมาให้ผมใช้ฮะ

(ตอนนั้นผมก็บอกว่า ม่ายยยยย มันดูหญิงมากเลยที่จะทาโลชั่นอะไรแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็ยืนยันครับว่า น้องชายเธอเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่ก็ใช้เหมือนกัน)

พูดถึงเรื่องนี้ จะว่าไป หลายปีก่อนก็มีเทรนด์ผู้ชายเมโทรเซ็กส์ชวลนะฮะเนี่ย ที่ดูแลผิวพรรณดีไม่ต่างจากผู้หญิง ก่อนที่เทรนด์ผู้ชายดิบเถื่อน ตบจูบ ๆ แบบจำเลยรัก หรือ คาวี จะตามมา แล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ชายอบอุ่นแนวรถไฟฟ้ามาหานะเธอ…… จนตอนนี้กลายมาเป็นผู้ชายแนว ‘ถึงผมไม่หล่อ แต่หัวใจผมหล่อ’ แบบสุดเขตเสลตเป็ด…. โอ้ว ตามไม่ทัน (ว่ะ) ครับ

โลชั่นที่ผมใช้ตอนนี้ เป็นแบบ 2 in  1 ครับ ฐิงรู้นิสัยผมดี บอกเลยว่า ซื้อมาให้ขวดเดียวนี่แหละ ถ้าซื้อให้หลาย ๆ ขวด ก้อนไม่ใช้แน่นอน (รู้ใจจังนะจ๊ะ) ที่ผมได้มาเป็นยี่ห้อ L’OREAL (คุณค่าที่คุณคู่ควร?) สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ

ในนั้นก็มี 2 อย่างครับ Anti-sagging gel กับ Anti-wrinkle cream (คือลบรอยย่นกับถุงใต้ตารึเปล่านะ?)

ด้วยความที่รู้นิสัยผมดีขนาดหนักครับ เจ้าตัวเลยให้ผมทาให้ดูก่อนออกจากบ้านด้วย (คือผมรู้สึกประหลาดมากเลยครับ ที่ต้องทาครีมหน้าคอมพิวเตอร์เนี่ย แล้วไอ้โปรแกรม skype หน้าต่างที่เห็นหน้าตัวเองมันก็เล็กนิดเดียว ดูลำบากชะมัด)

ตอนที่ผมทา ผมก็รอให้หน้าแห้งหมดแล้วครับ (แต่งตัวอะไรเรียบร้อยเสร็จสรรพ) แต่เจ้าตัวบอกว่า จริง ๆ แล้วให้ทาหลังตอนที่หน้ายังชื้น ๆ อยู่ จะมีประสิทธิภาพมากกว่า (จริงเรอะ)

แค่นี้ยังไม่พอนะครับ เวลาทาก็มีเทคนิคด้วย ไม่ใช่แค่โปะ ๆ เข้าไป ตอนที่ผมทาแล้วเอามือถูลงโดนดุเลย แฟนผมบอกว่า เวลาถู ให้ถูขึ้น???

ทำไมอ่ะ? ผมถาม

เจ้าตัวก็บอกว่า เวลาถูขึ้น รูขุมขุนจะได้เปิด เนื้อครีมจะได้ซึมเข้าไปได้ดีขึ้น แล้วมันจะช่วยให้หน้าเด้ง ถ้าถูลง หน้ามันก็เหี่ยวหมด (จริงเรอะ? ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้แฮะ)

นอกจากทาทั่วหน้าแล้ว ก็มีแอบย้ำเพิ่มตรงบริเวณที่เป็นรอยย่นครับ ทั้งถุงใต้ตา หางตา แล้วก็มุมปาก … แล้วก็เพิ่มตรงหว่างคิ้วด้วย เพราะผมชอบขมวดคิ้วบ่อย ๆ … นี่ก็เห็นเป็นรอยชัดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน (เพิ่งมาสังเกตเอาตอนทาครีมที่หน้านี่ล่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยสังเกตเลย)

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของครีมนี้ก็คือว่า มันไม่เหนียวเหนอะหนะครับ แล้วก็มีกลิ่นหอม เพราะงั้นผมเลยโอเคมาก ไม่ค่อยรำคาญเท่าไหร่

ตอนเด็ก ๆ เคยไปว่ายน้ำ แล้วก็จำได้ว่าครีมกันแดดมันเหนียวเหนอะหนะมาก ทาแล้วคันตัวไปหมด แล้วยังกลิ่นประหลาด (กลิ่นเหมือนยาง) เพราะงั้นก็เลยไม่ค่อยชอบทาครีมกันแดดเท่าไหร่

อ้อ พูดแล้วก็นึกได้ ผมเพิ่งรู้ว่า สาว ๆ ต้องทาครีมกันแดดก่อนลงเครื่องสำอางด้วยล่ะ ความรู้ใหม่นะเนี่ย (ไม่เคยรู้มาก่อนเพราะผมไม่เคยเห็นทั่นแม่ใช้อ่ะครับ)

ตอนที่หน้าเป็นขุย ๆ นี่ ก็เลยควักเอาครีมมาทาบ่อย ๆ ครับ ไม่ได่แค่เฉพาะหลังอาบน้ำ ตอนทามันจะแสบหน่อย ๆ เพราะหน้ามันถลอก (เห็นฐิงบอกว่า ผมเช็ดน้ำมูกแรงเกินไป ทิชชู่ที่ใช้ก็เนื้อหยาบ ไม่ใช่เนื้อนิ่ม ๆ ที่ให้เช็ดหน้า) แต่ช่วยได้มากเลยฮะ ตอนที่ทาก็นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่พอล้มแล้วถลอก แล้วแม่ให้เอาครีมมาทาตรงแผล (หัวเข่า) ตอนนั้นก็คิดในใจว่า จะบ้าเรอะ (ฮา) เพราะเด็ก ๆ ก็รู้สึกว่า ไอ้ครีมทาผิวเนี่ย มันจะไปช่วยอะไรตรงแผลได้ (ฟระ) แต่ตอนนี้ก็พอรู้แล้วล่ะว่า ถ้าผิวมันแห้งแตกมาก ๆ มันช่วยได้จริง ๆ

 

พูดถึงผิวแห้งแตก อีกอย่างที่ผมใช้ก็คือลิปมันครับ ผมใช้ธรรมดา แบบไม่มีสี ไม่มีกากเพชรอะไรนี่แหละ แต่ตอนทา แทนที่จะทาทั่วทั้งปากแบบลิปสติก ผมก็ป้าย ๆ แค่นิดหน่อย แล้วเอานิ้วเกลี่ยครับ (โดนดุเลยยว่า ทาแค่นั้นมันจะไปช่วยอะไร) แต่สมัยเด็ก ๆ เห็นเพื่อนผู้ชายที่ทาลิปมันจนมันไปทั้งปากแล้วมันจึ๊กกะดึ๋ยน่ะครับ (คือถ้าเป็นสาว ๆ ปากเคลือบมันวาวก็น่าดูอยู่หรอก แต่พอเป็นผู้ชาย ปากมันขนาดนั้นมันเหมือนกินข้าวขาหมูแล้วไม่ได้เช็ดปากน่ะสิครับ)

 

นี่ก็เริ่มทาครีมลบรอยเหี่ยวย่นได้สักพักแล้วครับ แล้วถ้ามันมีประสิทธิภาพยังไง จะมารายงานผลวันหลังนะครับ

 

อ้อ หลังจากที่แฟนผมให้ผมทาครีมเสร็จ สอนวิธีทาอะไรเสร็จสรรพ ด้วยความที่รู้นิสัยผมดี (อีกแล้ว) ฐิงก็กำชับด้วยครับว่า

‘ก้อนไม่ต้องเอาเรื่องนี้ไปลงบล็อกนะ’ (ฮา)